โรคฝีดาษลิง รู้ไว้ ป้องกัน พึงระวัง ดีที่สุด กำลังแพร่ระบาดอยู่ในต่างประเทศ
หลังจากที่สถานการณ์โรคระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 มีอัตราผู้ป่วยลดลงอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย ประชาชนส่วนใหญ่กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ มีการผ่อนปรนมาตรการต่างๆมากขึ้น แต่คนไทยหลายท่านก็ไม่ควรที่จะนิ่งนอนใจ เพราะมีโรคระบาดที่เข้ามาใหม่นั่นก็คือ โรคฝีดาษลิง เป็นโรคที่หลายคนต้องพึงระวัง เพราะมีการแพร่เชื้อจากสัตว์ไปสู่คน ทำให้เกิดการจากคนไปสู่คนได้นั่นเอง ซึ่งโลกนี้เป็นโรคติดต่อที่มีความอันตราย และเป็นโรคที่หลายคนต้องควรระวังเพียงใดนั้นเราจะพาทุกท่านไปรู้จักกับโรคฝีดาษลิงดังต่อไปนี้ รู้จัก โรคฝีดาษลิง โรคติดต่อที่มีความอันตรายต่อชีวิต โรคฝีดาษดินเป็นโรคที่อยู่ในกลุ่มเดียวกันกับโรคฝีดาษคน เล่นกำลังแพร่ระบาดอยู่ในต่างประเทศขณะนี้ โดยส่วนใหญ่แล้วจะพบที่แถบทวีปยุโรป อเมริกา แอฟริกา รวมไปถึงประเทศออสเตรเลีย เป็นโรคติด เชื้อไวรัส แพ้จากสัตว์มาสู่คน และเมื่อคนได้รับเชื้อแล้วจะแพร่กระจายโดยการสัมผัสใกล้ชิดสิ่งคัดหลั่งจากคนสู่คนได้ ซึ่งจะมีอาการอย่างไรนั้นเราจะพาทุกท่านไปรู้จักกันดังต่อไปนี้ที่ เว็บแนะนำสุขภาพ อาการแสดงของโรคฝีดาษดินที่คุณควรรู้ ระยะเวลาในการเพาะเชื้อของ โรคฝีดาษลิง ใช้เวลา 7-14 วัน อาการเริ่มแรกผู้ป่วยจะมีอาการปวดตามร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณหลัง ปวดศีรษะปวดร้าวไปที่บริเวณกระบอกตา รวมทั้งมีไข้สูง หลังจากนั้น 4-5 วัน อาการไข้จะลดลง ผู้ป่วยจะเริ่มมีผดผื่นขึ้นตามร่างกาย โดยลักษณะการเกิดขึ้นของผื่นนั้นจะเกิดบริเวณใดก่อนก็ได้ แล้วแต่ร่างกายของแต่ละบุคคล ลักษณะของตุ่มเริ่มแรกจะเป็นตุ่มแดง กลายเป็นตุ่มใส และกลับกลายเป็นตุ่มหนองตามลำดับ หลังจากนั้นตุ่มที่เกิดขึ้นจะตกสะเก็ด และหายเองไปในที่สุดภายในเวลา 3 สัปดาห์ ซึ่งเป็นอาการที่ไม่รุนแรง แนวทางในการป้องกันโรคฝีดาษลิง สำหรับวิธีการป้องกันไม่ให้เกิดโรคฝีดาษลิงควรมีการมั่นล้างมือเป็นประจำ […]
การดูแลตนเองเมื่อป่วย โควิด – 19 ที่บ้าน กับ 5 วิธีการง่าย ๆ ดังต่อไปนี้
สถานการณ์โรค covid-19 ที่ระบาดทั่วโลกในตอนนี้ แม้จะมีวัคซีนในการป้องกัน แต่ก็ไม่ได้การันตรีว่าจะไม่ติดเชื้อไวรัสเช่นกัน ซึ่งประเทสไทยตอนนี้ ยอดผู้ติดเชื้อมากขึ้น แต่มีอาการที่ทุเลา บางรายที่เป็นผู้ป่วยในกลุ่มสีเขียว สามารถดูแลตนเองได้ที่บ้าน โดยมี 5 วิธี การดูแลตนเองเมื่อป่วย โควิด – 19 ดังนี้ ติดต่อสายด่วนสุขภาพ 1330 เพื่อบันทึกอาการ และให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งยามาให้ที่บ้าน กักตัว ไม่ออกไปที่ไหน และสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ถึงแม้จะอยู่ในบ้าน เฝ้าสังเกตอาการตนเอง และทานยาที่ได้รับมาทุกมื้อตามอาการของตนเอง นอนพักผ่อนให้เพียงพอ และไม่เครียดจนเกินไป พร้อมส่งทามไลน์ให้กับคนที่ใกล้ชิดได้ระวัง ขยันในการล้างมือ กลั้วคอ และล้างจมูกบ่อย ๆ ซึ่งการดำเนิน การดูแลตนเองเมื่อป่วย โควิด – 19 ข้างต้น เป็นแนวทางให้กับกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการไม่ลงปอด หากรักษาตนเองแล้ว รู้สึกว่าตนเองมีอาการแย่ลง ให้รีบติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่มารับทันที เว็บแนะนำสุขภาพ 3 วิตามิน ช่วย การดูแลตนเองเมื่อป่วย โรค covid-19 ดีขึ้น อาการของโรค covid-19 […]
Workation เทรนใหม่ช่วย Work Life Balance เริ่มต้นจากการแพร่ระบาดจากในประเทศจีน
เป็นเวลาเกือบ 2 ปีแล้วที่การแพร่ระบาดของโรคโควิดได้เริ่มต้นการแพร่ระบาดจากในประเทศจีนและแพร่กระจายไปทั่วทั้งโลก ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรมากมายในเรื่องการใช้ชีวิตและการทำงาน เราใช้เวลาอยู่กับบ้านมากขึ้นพบปะผู้คนน้อยลงออกไปทำกิจกรรมต่าง ๆ น้อยลงเพื่อลดความเสี่ยงที่จะมีโอกาสติดเชื้อให้ได้มากที่สุด แต่ว่าการอยู่บ้านเป็นระยะเวลานาน ๆ นั้นก็อาจจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพและสภาพจิตใจ ทำให้มีความเหนื่อยล้า และอาจจะมีอาการซึมเศร้าก็เป็นได้ ไม่ว่าจะเป็นคนที่ชื่นชอบการอยู่คนเดียวมากเพียงไหนในที่สุดก็ต้องออกไปเจอกับเพื่อน ๆ อยู่ดี และการที่ทำงานตลอดเวลาก็อาจจะทำให้เกิดภาวะหมดไฟได้ ผู้คนจำนวนมากมายจึงหาโอกาสออกไปเที่ยวปีละหนสองหนเพื่อเติมไฟให้กับตัวเอง จากการนั่งทำงานที่บ้านมาเป็นระยะเวลานานทำให้ได้เรียนรู้ว่างานบางงานก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเข้าไปทำที่ออฟฟิศก็สามารถที่จะทำให้ธุรกิจหรือการขับเคลื่อนของบริษัทนั้นเดินหน้าต่อไปได้จึงทำให้เกิดการทำงานในรูปแบบใหม่ที่มีชื่อว่า Workation เว็บแนะนำสุขภาพ Workation เป็นการรวมคำกันระหว่าง Work กับ Vacation ซึ่งหมายถึงการที่ทำงานไปและท่องเที่ยวไปในเวลาเดียวกัน หรือเรียกได้ว่าเป็นการทำงานจากที่ไหนก็ได้นั่นเอง ซึ่งเหมาะมากกับคนที่อยากมี Work Life Balance โดยเราสามารถใช้เวลาพักผ่อนไปพร้อมกับ การทำงาน ได้ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่ทำให้เราได้เรียนรู้จากการที่ทำงานเป็นระยะเวลานาน ๆ โดยที่ไม่เข้าออฟฟิศ แล้วมันอาจจะกลายเป็นการทำงานรูปแบบใหม่ที่บริษัทหลาย ๆ บริษัทใช้เป็นระบบการทำงานให้กับพนักงานในอนาคตได้เลยทีเดียว นอกจากจะสามารถทำให้งานเดินไปได้อย่างเป็นระบบระเบียบแล้วเรายังสามารถใช้เวลาอยู่กับความสนุกและความสุขในการเดินทางท่องเที่ยวได้อีกด้วย ซึ่งได้มีการจัดอันดับว่าเมืองไหนเป็นเมืองที่เหมาะกับการWorkationโดยเมืองกรุงเทพฯนั้นก็เป็นเมืองที่ติดอันดับต้น ๆ ของโลกเลยที่เหมาะกับการWorkationนอกจากนี้ก็มีจังหวัดภูเก็ต จังหวัดเชียงใหม่ ที่อยู่ในอันดับรองลงมา สิ่งที่สำคัญเลยก็คือถ้าหากว่าเทรนของการทำงานในรูปแบบWorkationเป็นไปได้และได้รับความนิยมคนจำนวนมากก็สามารถมี Work Life Balance ได้อย่างง่ายดายและสามารถทำให้ชีวิตมีความสุขไปพร้อมกับการทำงานได้ด้วย ชีวิตของการทำงานก็จะไม่น่าเบื่อเหมือนเมื่อก่อนและยังสามารถแก้ปัญหาทางด้านสุขภาพจิตได้ไม่น้อยเลยทีเดียว แล้วที่สำคัญยังทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวได้เติบโตและได้มีการปรับตัว โดยในห้องพักหรือสถานที่พักอาจจะมีมุมไว้ให้สำหรับผู้ใช้บริการได้ทำงานและพักผ่อนไปพร้อม ๆ กัน
โควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า ที่กำลังระบาดหนักในประเทศไทยจะมีความรุนแรงมากขนาดไหน
ทุกวันนี้ ความรุนแรงของการระบาดของโควิด- 19 สามารถติดต่อกันอย่างง่ายจะได้ง่ายมากขึ้นเพราะว่าเชื้อไวรัส โควิด- 19 มีการกลายพันธุ์จากสายพันธุ์ดั้งเดิมของอู่ฮั่น มาเป็นสายพันธุ์อังกฤษ แมวสายพันธุ์อินเดียที่สาย โควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า นั้นแค่เพียงได้สัมผัสเชื้อเพียงระยะเวลา 5-10 วินาทีก็สามารถเชื้อโควิดนี้เข้าสู่ร่างกายทันที เว็บแนะนำสุขภาพ โควิด- 19 สายพันธุ์เดลต้า ที่มีกำเนิดมาจากประเทศอินเดียนั้น คาดว่าจะเป็นสายพันธุ์ที่รุนแรงและระบาดไปทั่วโลกซึ่งองค์การอนามัยโลกมีการวิจัยรองรับออกมาอย่างชัดเจน ความอันตรายของเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลต้า จากข้อมูลงานวิจัยพบว่ามีสายพันธุ์นี้สามารถแพร่เชื้อสู่บุคคลอื่นภายในเวลา 5-10 วินาทีเท่านั้นโดยที่เชื้อไวรัสดังกล่าวยังสามารถลอยอยู่ในอากาศได้ถึง 16 ชั่วโมง ดังนั้นถ้าหากว่าได้เข้าไปในห้องที่มีผู้ป่วย โควิด- 19 c,h;jkผู้ป่วยออกไปอยู่ที่อื่นแล้วแต่เชื้อไวรัสดังก็ยังอยู่ในอากาศภายในห้องนั้น ได้นาน เกือบ 1 วันเต็ม ดังนั้นเมื่อพบว่ามีผู้ป่วยเดลตาเข้าพักหรือออกจากห้องทใดๆก็ควรฆ่าเชื้อโรคจะสวมชุด PPE ก่อนเข้าไปสัมผัสห้องที่มีผู้ป่วยโควิดซึ่งเราไม่ทราบหรอกว่าผู้ป่วยคนนั้นเป็นโรคสายพันธุ์อะไรแต่ก็ควรระวังตัวให้ดีเสมอเพราะว่าในประเทศไทยนับว่าสายพันธุ์เดลต้าระบาดสูงสุดนั่นเอง อาการที่มักจะพบในผู้ป่วย โควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า เจ็บคอปวดหัว คัดจมูกมีน้ำมูก จะเห็นได้ว่าอาการเบื้องต้นเหมือนกับไข้หวัดธรรมดา จึงทำให้ผู้คนไม่ตระหนกตกใจในระยะเริ่มต้นว่าตนเองเป็นโรคโควิดสายพันธุ์นี้รวมถึงอาการไม่รับรู้รสชาติและไม่ได้กลิ่น และความรุนแรงของเดลต้ายังมีต่อเนื่องโดยการเชื้อไวรัสจะไปทำลายเซลล์ของปอดอย่างรวดเร็วจึงทำให้ผู้ป่วยหายใจลำบากออกซิเจนในเลือดต่ำส่งผลให้กระบวนการหายใจล้มเหลว และถ้าหากไม่สามารถได้รับยารักษาอย่างทันท่วงที หรือไม่สามารถต้านไวรัสได้ก็จะทำให้ ติดเชื้อลุกลามไปทำลายระบบต่างในร่างกายและเสียชีวิตในที่สุดเพราะมีอาการปวดอักเสบร่วมด้วยนั่นเองซึ่งอาการดังกล่าวนี้ถ้าไม่รักษาทันท่วงทีและไม่รู้ว่าติดเชื้ออย่างทันเวลาอาการก็จะทรุดหนักลงภายในเวลาไม่ถึง 10 วันตามที่ปรากฏดังข่าว ในปัจจุบันนี้ เชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าไม่ระบาดในประเทศไทยมากกว่า 80% จึงนับว่าเป็นยุคครองเมืองของสายพันธุ์นี้ซึ่งมีความรวดเร็วและรุนแรงมากกว่าสายพันธุ์อื่นดังนั้นควรจะป้องกันให้ดีไม่ว่าจะเป็นการใส่หน้ากากทุกครั้งไม่ว่าจะอยู่นอกบ้านหรืออยู่ในบ้าใส่ให้เป็นอวัยวะหนึ่ง […]
โควิด- 19 ระบาดหนักในประเทศไทยและทั่วโลกซึ่งแต่ละคนก็มีความเสี่ยงสูง
ในปัจจุบันนี้โรคระบาด โควิด- 19 ระบาดหนักในประเทศไทยและทั่วโลกซึ่งแต่ละคนก็มีความเสี่ยงสูงในการติด โควิด- 19 ซึ่งในช่วงแรกของผู้ได้รับเชื้อในบางคนก็อาจมีอาการไม่รุนแรงซึ่งสามารถดูแลตัวเองได้ที่บ้านที่เรียกว่า Home Isolation ควรจะมีแนวทางในการดูแลอย่างไรเราจึงขออธิบายให้กับทุกคนเพื่อนำไปปฏิบัติตัวหากได้รับเชื้อโควิด-19ปัจจุบันนี้สามารถตรวจหาเชื้อได้เองจาก ตรวจ โควิด ที่เรียกว่าAntigen Test kid. ดังนั้นถ้าเข้าข่ายว่าเป็นผู้ติดเชื้อควรมีการดูแลตัวเองดังนี้ที่ เว็บแนะนำสุขภาพ ถ้าพบว่ามีไข้สูงไม่เกิน 37.5 องศาเซลเซียสควรรับประทานยาพาราเซตามอล 500 mg ครั้งละ 1 2 เม็ดเพื่อให้ไข้ลดลงทุกๆ 4 ถึง 6 ชั่วโมงแรกควรเช็ดตัวบ่อยๆเพื่อเป็นการลดอุณหภูมิในร่างกายในบริเวณข้อพับต่างๆเพื่อเป็นการระบายความร้อนในร่างกาย วัดผู้ติดเชื้อโควิค 19 มีไข้สูงก็จะทำให้อาการหนักขึ้นดังนั้นควรจะควบคุมไม่ให้มีไข้สูง หากมีอาการไอ สามารถรับประทานยาแก้ไอทั้งน้ำหรือชนิดเม็ดรวมถึงและไม่ควรรับประทานขนมขบเคี้ยวกรุบกรอบที่จะส่งผลทำให้อาการไอแย่ลงอาทิเช่นมันฝรั่งทอด เฟรนช์ฟรายส์ ถั่วต่างๆเพราะอาจจะทำให้เกิดอาการระคายคอ และทำให้อาการไอหนักขึ้น ควรจะจิบน้ำบ่อยๆ และน้ำที่จิบนั้นไม่ควรจะเป็นน้ำเย็นควรจะเป็นน้ำอุ่นเพื่อละลายเมือกที่อยู่ในลำคอทำให้อาการไอดีขึ้นอีกช้างการดื่มน้ำบ่อยๆยังทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนเพิ่มขึ้นอีกทางหนึ่ง นอกจากนี้ควรงดเครื่องดื่มรสหวานทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นน้ำอัดลม กาแฟเย็นชานมไข่มุก เพราะว่าการได้รับน้ำตาลก็จะทำให้อาการอักเสบภายในลำคอหรือทางเดินหายใจหรือทางเดินอาหารอักเสบมากยิ่งขึ้นนั่นเอง สำหรับเด็กที่อายุต่ำกว่า 1 ขวบควรอยู่ในการดูแลของแพทย์ในการเลือกรับประทานยาแก้ไอควรจะได้รับการปรึกษาจากแพทย์เสมอ เลือกรับประทานอาหารให้ถูกสุขลักษณะเพราะว่าโรคโควิด-19นั้นอาจจะมีผลต่อระบบทางเดินอาหารในผู้ป่วยบางคนจึงทำให้มีอาการท้องเสียมีอาการถ่ายบ่อยร่วมด้วยดังนั้นจึงควรเลือกรับประทานอาหารให้สุกลักษณะงดอาหารที่สุกๆดิบๆเพราะจะทำให้เกิดพยาธิก็จะทำให้อาการคงแย่ลงควรจะเป็นอาหารอ่อนและอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆจะดีที่สุด หลีกเลี่ยงอาหารรสจัดทุกชนิดอาหารรสเผ็ดจัดเปรี้ยวจัดทำให้ระคายคอและเจ็บคอมากยิ่งขึ้น ถ้าพบว่ามีอาการท้องเสียหรือ อาเจียน ควรดื่มเกลือแร่แบบORSผสมกับน้ำสะอาดและควรเป็นน้ำต้มสุกเท่านั้นเพราะว่าผ่านการฆ่าเชื้อมาแล้วโดนความร้อนโดยสารแบ่งจิบตลอดทั้งวันสำหรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิคที่มีโรคประจำตัวที่เป็นโรคหัวใจหรือโรคไตควรจะปรึกษาก่อนดื่มเกลือแร่แบบORS หากมีอาการหายใจติดขัดและหายใจลำบากควรเปิดหน้าต่างในห้องให้มีอากาศถ่ายเทสะดวกไม่ควรอยู่ในห้องทึบ หรือควรปรับพัดลมให้พัดลม ให้ระบายอากาศภายในห้องไม่ควรจ่อมาที่หน้าโดยตรงเพราะอาจจะทำให้หายใจลำบากยิ่งขึ้นและควรหายใจ ยาวๆด้วยหายใจเข้าทางจมูกและผ่อนลมออกทางปาก […]
จะลดความเครียดจากสถานการณ์โควิด-19 ระบาดได้อย่างไร
เชื่อว่าตอนนี้ใคร ๆ ต่างก็เครียดกับปัญหาโควิด-19 กันทั้งนั้นด้วยความยาวนานของการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องมาจากปีที่แล้วและมีแนวโน้มว่าจะยังอยู่กับเราไปอีกสักพักเลยล่ะ การใช้ชีวิตของคนเราในตอนนี้ก็มีความเปลี่ยนแปลงไป การพบปะผู้คนก็น้อยลง การที่ได้พูดคุยกับผุ้คน หรือกระทั่งงานที่มีอยู่ก็น้อยลงไปด้วยเช่นเดียวกัน แบบนี้แล้วจะไม่ทำให้เครียดได้อย่างไรล่ะ จึงเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วที่ใคร ๆ ต่างเครียดและพาลไปกับเรื่องอื่น ๆ ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพจิตและร่างกายของเราอย่างเลี่ยงไม่ได้เลยล่ะ ทีนี้เราจะมีวิธีอะไรบ้างที่ทำให้เราสามารถลดเจ้าความเครียดที่เกิดขึ้นตอนนี้ลงไปได้บ้าง จะลดความเครียดจากสถานการณ์โควิด-19 ระบาดได้อย่างไรไปติดตามกันได้ที่ เว็บแนะนำสุขภาพ เสพข่าวให้น้อยลง – จะลดความเครียดจากสถานการณ์โควิด-19 ระบาดได้อย่างไร สาเหตุแรกจากความเครียดก็มาจากเสพข่าวมากเกินไปนั่นเอง ข่าวที่เรารับรู้เกี่ยวกับโควิดแน่นอนว่าไม่ค่อยจะเป็นข่าวดีเสียเท่าไหร่ หลายคนที่ไม่มีภูมิในการอ่านข่าวและเก็บมาคิดมาเครียดก็จะทำให้เรารู้สึกเครียดอย่างช่วยไม่ได้เลยล่ะ วิธีที่สามารถช่วยได้คือการที่ลดปริมาณในการอ่านข่าวให้น้อยลง อาจอ่านข่าวตอนเช้าวันละครั้งแทนดีกว่าการอ่านข่าวทั้งวัน หากิจกรรมที่ชอบดึงดูดความสนใจจากเรื่องที่เครียด – จะลดความเครียดจากสถานการณ์โควิด-19 เวลาที่เครียดควรหาทางออกด้วยการทำสิ่งที่ทำแล้วมีความสุขไม่ว่าจะเป็นการโทรคุยกับเพื่อน ๆ การเล่นเกม การอ่านหนังสือ หรือกิจกรรมอะไรก็ได้ที่ทำให้เรารู้สึกมีความสุขนั่นเอง ใครที่ชอบออกกำลังกายเวลาเครียดก็สามารถไป ออกกำลังกาย ได้เช่นเดียวกัน ดูแลสุขภาพร่างกาย เมื่อร่างกายแข็งแรงจิตใจจะแข็งแรงตามไปด้วย –จะลดความเครียดจากสถานการณ์โควิด-19ระบาดได้อย่างไร น่าจะเคยได้ยินกันมาว่าเมื่อสุขภาพจิตแข็งแรงร่างกายก็จะแข็งแรง ในทางกลับกันเมื่อสุขภาพกายแข็งแรงสุขภาพจิตก็จะแข็งแรงตามไปด้วยนั่นเอง ฟังเพลง นั่งสมาธิ หาความสงบให้ตัวเองบ้าง –จะลดความเครียดจากสถานการณ์โควิด-19 ระบาดได้อย่างไรกินอาหารที่ดีที่อร่อยก็ช่วยได้ – จะลดความเครียดจากสถานการณ์โควิด-19 ระบาดได้อย่างไร ธรรมชาติของคนเราจะรู้สึกไม่เครียดเวลาที่รับประทานอาหาร หรือรู้สึกเครียดน้อยลง ยิ่งได้รับประทานอาหารที่อร่อยถูกปากด้วยแล้วยิ่งทำให้อารมณ์ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดกันเลยล่ะ ดังนั้นดูแลเรื่องอาหารการกินก็เป็นความสุขเล็ก […]