อยากนอนหลับสนิท นอนไม่พอใช่มั้ย ทั้งเครียดเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว บางครั้งร่างกายล้าจนจะแย่แล้วแต่ก็ไม่ยอมหลับ หลับยากจนต้องพึ่งยา เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมาในหนุ่มสาววัยทำงานยุคปัจจุบัน บางทีคุณอาจไม่เคยรู้มาก่อนว่าหลากหลายพฤติกรรมของตัวคุณเองกำลังสร้างตารางเวลาการนอนที่ผิดปกติให้ร่างกาย นานวันเข้าก็สะสมมากขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดโรคนอนไม่หลับ ลองปรับสิ่งเหล่านี้ช่วยได้

- จัดตารางเวลานอนและตื่น
เป็นข้อแรกที่สำคัญที่สุด ลองวางแผนให้ร่างกายของตัวเองว่าจะเข้านอนและตื่นนอนตอนไหน เวลาการนอนหลับพักผ่อนที่เหมาะสมของวัยทำงานอยู่ระหว่าง 6-8 ชั่วโมง คุณสามารถเลือกเวลายามค่ำคืนได้ว่าควรเข้านอนกี่ทุ่ม ตื่นกี่โมง และเมื่อถึงเวลาที่กำหนดก็ควรมุ่งไปที่เตียงนอนทันที ไม่ว่าจะหลับสนิทได้จริงตอนกี่ทุ่มก็แล้วแต่ เมื่อถึงเวลาตื่นก็ต้องลุกออกมา อย่าอิดออดหรือต่อเวลานาฬิกาปลุกเรื่อยๆ เด็ดขาด
- งดมื้อดึก
การรับประทานอาหารเย็นใกล้เวลานอนมากเกินไปส่งผลต่อการนอนหลับ อาหารมื้อสุดท้ายของวันควรห่างจากเวลาเข้านอน 2-3 ชั่วโมง หากรู้สึกหิวจริงๆ สามารถทานของว่างจำพวกโปรตีนย่อยง่าย อาทิ โยเกิร์ตรสธรรมชาติ โปรตีนเชค นม ก็เพียงพอต่อการทำให้ร่างกายหายหิวระหว่างค่ำคืนแล้ว
- แสงไฟสร้างบรรยากาศการนอน
ตามหลักการแล้วแสงไฟสลัวในห้องนอนสามารถทำให้คุณคลายความวิตกกังวลและปล่อยวางเรื่องเครียดก่อนเข้านอนได้ง่าย ส่วนแสงไฟจ้าจากอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีหน้าจอ เช่น ทีวี แท็บเล็ต ทำให้คุณหลับยาก ดังนั้นการลดแสงสว่างสีฟ้าในอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า แล้วเปลี่ยนมาใช้ไฟสีเหลืองนวล ทั้งโคมไฟห้อง โคมไฟอ่านหนังสือ ก็จะไม่รบกวนการผลิตเมลาโทนิน นอกจากนั้นการออกไปการรับประทานอาหารกลางวันหรือไปเดินเล่นกลางแจ้งระหว่างวันก็ช่วยได้เช่นกัน เนื่องจากแสงดวงอาทิตย์ธรรมชาติที่สว่างในตอนกลางวัน สามารถทำให้คุณไวต่อแสงยามเย็นน้อยลง
- ปิดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
การปิดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดก่อนเข้านอนเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะอุปกรณ์เหล่านั้นมีทั้งคลื่นแม่เหล็ก และแสงสีฟ้าซึ่งรบกวนการนอนหลับ แต่ด้วยวิถีชีวิตในปัจจุบัน คนส่วนใหญ่อาจไม่สามารถขาดอุปกรณ์สมาร์ตโฟนเหล่านี้ได้เลย ดังนั้นลองลดจำนวนอุปกรณ์ที่คุณถือติดมือตอนนอนก็ช่วยได้เช่นกัน หากปกติคุณต้องเปิดทั้งคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และสมาร์ตโฟน ลองลดให้เหลือเพียงสมาร์ตโฟนอย่างเดียว ตั้งระบบช่วงกลางคืนเป็น Dark mode, หน้าจอก็ปรับเป็นแบบลดแสงสีฟ้า และตั้งค่าเป็น Night mode ก็สามารถลดสัญญาณรบกวนต่างๆ ได้
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนนอนโดยเด็ดขาด
จำเอาไว้ว่าแม้จะนอนหลับยากเย็นแค่ไหน แต่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ใช่ทางเลือกที่ดี ไม่ควรทำเด็ดขาด แม้คุณจะดื่มแล้วหลับเร็ว แต่ช่วงครึ่งหลังของการนอน แอลกอฮอล์ในกระแสเลือดจะรบกวนกระบวนการ REM (Rapid eye movement sleep การนอนหลับช่วงฝัน) ทำให้คุณตื่นขึ้นมาระหว่างคืนจนเป็นสาเหตุให้เกิดปัญหาการนอนไม่พอตามมา หากคุณต้องดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเลี่ยงไม่ได้จริงๆ อาจเพราะปาร์ตี้ต่างๆ ก็ควรเว้นระยะห่างจากเวลาเข้านอนประมาณ 3 ชั่วโมง

จะเห็นได้ว่าเรื่องก่อนนอนมีผลต่อการนอนของเราอย่างแน่นอน ปัจจัยมากมายสามารถส่งผลกระทบต่อร่างกายได้ การนอนหลับที่ดีสามารถช่วยบรรเทาทุกอย่าง เสริมสร้างความแข็งแรงตั้งแต่ระบบภูมิคุ้มกันไปจนถึงประสิทธิภาพของการตอบสนอง ดังนั้นจึงควรใส่ใจต่อการนอนอย่างยิ่งจะจำไว้เสมอว่าการพักผ่อนนอนหลับคือการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดในการดูแลสุขภาพ
ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก เว็บแนะนำข้อมูลสุขภาพ หรือบทความ
- “บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป” รู้จักกับอาหารยอดนิยมแต่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ
- การออกกำลังกาย 11 นาทีต่อวันเพิ่มความแข็งแกร่งลดความเสี่ยงเกิดโรค
- ถุงยางแตก เมื่อมีเพศสัมพันธ์ เราควรรู้จัก สาเหตุความเสี่ยงนั้น
- สรรพคุณชั้นเลิศ ของกระเจี๊ยบเขียว สมุนไพรชนิดหนึ่ง ดีต่อสุขภาพอย่างไร
- ประโยชน์ของกล้วย ถือว่าเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่มากมาย
- หน้าลอกเป็นขุย แสบ เป็นหนึ่งในปัญหาสุขภาพผิว พบบ่อยในช่วงฤดูหนาว