อาหารแก้ไมเกรน ใครที่เจอกับอาการปวดไมเกรนอยู่ประจำ ซึ่งก็ต้องมีการใช้ยาเพื่อบรรเทาอาการปวด แต่เมื่อทานบ่อยครั้ง ก็อาจจะมีผลข้างเคียงต่อสุขภาพของเรา สำหรับคนที่มีอาการปวดหัว ปวดไมเกรน ทางเราแนะนำให้เลือกทานอาหารเหล่านี้ เพราะในอาหารบางชนิดนั้นมีสารอาหารที่บรรเทาและลดอาการปวดหัว รวมถึงควรดูแลร่างกายให้แข็งแรง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ สำหรับอาหารที่เราจะแนะนำมีดังนี้
อาหารที่ช่วยบรรเทา อาหารแก้ไมเกรน แก้อาการปวดหัว
- น้ำขิง

ดื่มได้ตลอด เพื่อบำรุงสุขภาพของเรา สำหรับสรรพคุณของน้ำขิงนั้นช่วยลดอาการปวดไมเกรนได้ดี ช่วยบรรเทาให้ระดับความรุนแรงของไมเกรนค่อยๆ ลดลง มีฤทธิ์ช่วยลดการอักเสบ พร้อมกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนได้ดี อีกทั้งยังสามารถสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรงขึ้น แถมการดื่มน้ำขิงก็ช่วยให้เราผ่อนคลายได้ดีอีกด้วย และอีกหลายประโยชน์จากน้ำขิงที่เรารู้จักกันดีเลยก็คือ บรรเทาอาการหวัด และลดระดับน้ำตาลในเลือด
- ปลาแซลมอน

จัดเป็นอีกหนึ่งเมนูอาหารที่ดีต่อสุขภาพ แถมยังทำได้หลากหลายเมนู ปลาแซลมอนอุดมด้วยโอเมก้า 3 ซึ่งช่วยลดอาการอักเสบ บรรเทาอาการปวดไมเกรน ช่วยให้การทำงานของระบบประสาทมีประสิทธิภาพดีขึ้น และนอกจากปลาแซลมอนแล้ว ก็ยังปลาทะเลทุกชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของเรา
- ข้าวกล้อง
เพราะในข้าวกล้องประกอบไปด้วยวิตามินบีสูงมาก สูงกว่าข้าวขาวหลายเท่า เป็นสารอาหารสำคัญในการบำรุงระบบประสาทและสมอง พร้อมกับมีสารอาหารสำคัญอื่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น โฟเลท แมกนีเซียม ธาตุเหล็ก เป็นต้น ซึ่งช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดให้ประสิทธิดีขึ้น ดังนั้นข้าวกล้องจึงเป็นอาหารที่ช่วยบรรเทาอาการปวดไมเกรนและมีประโยชน์ต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก แนะนำให้รับประทานเป็นประจำจะดีมากๆ
- น้ำใบบัวบก
การที่น้ำใบบัวบกช่วยแก้ช้ำในนั้น เป็นเพราะน้ำใบบัวบกมีฤทธิ์ช่วยลดอาการร้อนใน หรือก็คือการกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนดีนั่นเอง ดังนั้นการดื่มน้ำใบบัวบกนอกจะแก้ช้ำในแล้วนั้น ยังบรรเทาอาการปวดไมเกรนได้ด้วย พร้อมกับมีสารที่ออกฤทธิ์กับสมองในการผ่อนคลายความเครียด คลายความกังวล แต่ดูเหมือนว่าการดื่มน้ำใบบัวบกจะดูยากไปหน่อย ด้วยรสชาติขม จึงแนะนำให้ผสมน้ำผึ้งลงไปด้วย ให้ทานง่ายขึ้น

ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ยังมีหลายอาหารที่ช่วยแก้อาการปวดไมเกรนได้ เช่น อัลมอนด์ กล้วย แตงโม ผักโขม บร็อกโคลี่เป็นต้น การที่ทานอาหารเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง ก็จะทำให้อาการปวดไมเกรนค่อยๆ บรรเทา จนหายได้เลย หรือใครไม่มีอาการปวดก็ทานได้เช่นเดียวกัน
ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก เว็บแนะนำข้อมูลสุขภาพ หรือบทความ การดูแลสุขภาพ หรืออื่นๆเช่น เคล็ดลับ “อายุยืน” จากชาวโอกินาว่า เมืองที่มีผู้สูงอายุมากที่สุดในโลก