น้ำตาล ทำร้ายร่างกายเราได้อย่างไร

น้ำตาล s3

น้ำตาล สำหรับสาว ๆ น้ำตาลอาจไม่ใช่สารให้ความหวานในอาหารเท่านั้น แต่เป็นสารให้ความหวานต่อจิตใจ หากจะขาดอะไรก็ขาดได้ แต่การขาดของหวานนั้นไม่ได้ มันเหมือนขาดอะไรไปจนบางครั้งชวนให้หงุดหงิดเอาจริง ๆ เพราะน้ำตาลช่วยให้อาหารคาวมีรสชาติกลมกล่อมขึ้น และทำให้ของหวานเป็นของหวาน ดังนั้นในชีวิตประจำวันของเราจะขาดอะไรก็ขาดได้ แต่ขาดนั้นตาลนั้นไม่ได้ ทว่ารู้หรือไม่… น้ำตาลนั้นมีผลต่อสุขภาพของเรามากกว่าที่คิด ในแบบที่สาว ๆ ได้รู้แล้วอาจร้องกรี๊ดจนพาลเลิกกินไปเลยก็ได้

น้ำตาล ทำร้ายร่างกายเราได้อย่างไร มาดูกัน

น้ำตาล s1

1. น้ำตาลเป็นต้นตอของโรคร้ายนานับประการและเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เพราะน้ำตาลเป็นสารที่ให้พลังงานสูง เมื่อรับเข้าสู่ร่างกายแล้วจะเปลี่ยนรูปไปเป็นไกลโคเจนเก็บไว้ในตับ แต่หากมีปริมาณล้นเกินก็จะถูกเปลี่ยนไปเป็นไขมันส่งไปตามกระแสเลือดและไปสะสมอยู่ตามใต้ชั้นผิวหนังอย่างหน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา และสะโพก เป็นสาเหตุให้เกิดโรคอ้วนและทำให้โครงสร้างของร่างกายรับน้ำหนักมากเกินไปจนเสียรูปได้ และหากไขมันที่ส่งไปทางกระแสเลือดนั้นเกิดไปอุดตันก็เสี่ยงให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตันได้ ยังไม่นับรวมถึงโรคร้ายที่เรารู้จักกันดีอย่างเบาหวาน

2. น้ำตาลทำให้เกิดการเสพติด น้ำตาลเป็นสารที่ออกฤทธิ์คล้ายสารเสพติดอย่างนิโคติน เวลาเข้าสู่ร่างกายจะไปกระตุ้นการหลั่งสารเซโรโทนินที่เป็นสารที่ทำให้เกิดความสุข แต่ทุกครั้งที่กินน้ำตาลเข้าไปจำเป็นต้องกินเข้าไปในปริมาณที่มากกว่าเดิมเพื่อให้มีการหลั่งเซโรโทนินเท่าเดิมคล้าย ๆ กับการใช้สารเสพติด และหากวันไหนที่ไม่ได้รับน้ำตาลจะมีอาการครั่นเนื้อครั่นตัว หงุดหงิด สุขภาพแย่ลง ทำให้ต้องหามาทานอยู่เรื่อย ๆ และเลิกไม่ได้เสียที

3. น้ำตาลกระตุ้นให้เกิดการอักเสบในร่างกาย น้ำตาลเป็นสารที่กระตุ้นให้เกิดอนุมูลอิสระในร่างกาย ที่จะเข้าไปรบกวนและทำลายโครงสร้างของคอลลาเจนให้มีความยืดหยุ่นน้อยลง อันเป็นสาเหตุให้เซลล์เสื่อมสภาพและเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นได้เร็วกว่าปกติ น้ำตาลยังเป็นตัวกระตุ้นให้การอักเสบในร่างกายมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งล้วนไม่ก่อให้เกิดผลดีต่อสุขภาพของสาว ๆ เลย

น้ำตาล s2

จากผลกระทบของน้ำตาลต่อร่างกายทั้งสามข้อที่กล่าวมา แล้วหันมองย้อนกลับไปยังประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับจากน้ำตาล ก็ทำให้ตัดสินใจได้ไม่ยากเลยว่าเราควรลดน้ำตาลหรือเลิกไปเลยเพื่อสุขภาพและความงามของเราเอง แต่การลดหรือเลิกน้ำตาลนั้นไม่ใช่สิ่งที่ทำได้ง่ายนัก แต่จำเป็นต้องอาศัยแรงใจเป็นอย่างมาก เพราะสิ่งยั่วยวนใจยังมีมากเหลือเกิน แต่วันหนึ่งหากเลิกได้จริง ๆ คุณจะไม่รู้สึกอยากน้ำตาลอีกเลย เพราะได้เดินออกจากวงจรการเสพติดน้ำตาลแล้วนั่นเอง

ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก เว็บแนะนำข้อมูลสุขภาพ หรือบทความ การดูแลสุขภาพ หรืออื่นๆเช่น สัญญาณอันตราย ร่างกายกำลัง “แพ้ยา”

Back To Top